เอไมด์ (Amide)
เอไมด์เป็นสารประกอยอินทรีย์ที่ประกอบด้วยธาตุ C , H , O และ N เกิดจากหมู่อะมิโน (–NH2) เข้าไปแทนที่หมู่คาร์บอกซิล
(–COOH) ในกรดคาร์บอกซิลิก โดยมีสูตรทั่วไปและมีหมู่ฟังก์ชันดังนี้
(–COOH) ในกรดคาร์บอกซิลิก โดยมีสูตรทั่วไปและมีหมู่ฟังก์ชันดังนี้
นอกจากหมู่อะมิโนเข้าไปแทนที่หมู่ไฮดรอกซิลแล้ว
อาจเป็นหมู่ หรือ ดังนั้นเอไมด์จึงแบ่งเป็น 3 ประเภท
คือ
|
การเรียกชื่อเอไมด์
การเรียกชื่อเอไมด์
ให้เรียกตามจำนวนอะตอมของคาร์บอน แล้วเปลี่ยนเสียงลงท้ายเป็น –อานาไมด์ (–anamide) เช่น
HCONH2
|
เมทานาไมด์
|
methanamide
|
CH3CONH2
|
เอทานาไมด์
|
Ethanamide
|
CH3CH2CONH2
|
โพรพานาไมด์
|
Propanamide
|
CH3CH2CH2CONH2
|
บิวทานาไมด์
|
Butanamide
|
สมบัติของเอไมด์
1. เอไมด์เป็นโมเลกุลมีขั้ว และเกิดพันธะไฮโดรเจนได้
2. จุดเดือดของเอไมด์
มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามจำนวนอะตอมของคาร์บอน
เอไมด์ส่วนใหญ่มีสถานะเป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง
และจุดเดือดสูงกว่าเอมีนที่มีมวลโมเลกุลใกล้เคียงกัน
เพราะแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลของเอไมด์สูงกว่าเอมีน
พันธะไฮโดรเจนที่เกิดระหว่างหมู่ กับ มีความแข็งแรงมากกว่าพันธะไฮโดรเจนในโมเลกุลของเอมีน
พันธะไฮโดรเจนระหว่างโมเลกุลของเอไมด์
3. เอไมด์ที่มีโมเลกุลขนาดเล็กละลายน้ำได้
แต่สภาพละลายได้จะลดลงมื่อจำนวนอะตอมคาร์บอนเพิ่มขึ้น จนถึงไม่ละลายน้ำ
สารละลายของเอไมด์มีสมบัติเป็นกลาง
เนื่องจากอะตอมของออกซิเจนในหมู่คาร์บอนิลดึงดูดอิเล็กตรอนจากอะตอมของไนโตรเจนในหมู่อะมิโน
เป็นผลทำให้ไนโตรเจนมีสภาพขั้วไฟฟ้าค่อนข้างบวก จึงไม่สามารถรับโปรตอนจากน้ำได้
4. เอไมด์สามารถเกิดปฏิกิริยาไฮโดรลิซิส
ในสารละลายกรด หรือสารละลายเบส ได้ผลิตภัณฑ์เป็นกรดคาร์บอกซิลิก และเอมีน ดังสมการ
ประโยชน์ของเอไมด์
เอไมด์ที่ใช้มาก
ได้แก่ อะเซตามิโนเฟน หรืออีกชื่อหนึ่งคือพาราเซตามอล หรือไทลินอล
ใช้ผสมในยาบรรเทาปวดและลดไข้
ยูเรีย
เป็นเอไมด์ที่พบในปัสสาวะของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม
เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการสลายโปรตีน ซึ่งปกติคนจะขับถ่านยูเรียวันละประมาณ 20–30 กรัมต่อวัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น